Diy muting for tube preamp

เมื่อก่อนนานมาแล้วผมทำปรีหลอด pv – 01 ซึ่งเป็นปรีแอมป์แบบหลอดตัวแรกที่ผมอยากได้ แต่ไม่ซื้อสำเร็จ อยากได้ต้องทำเองกับมือ ( เบี้ยน้อยหอยน้อย อิอิ ) โดยทำตามหนังสือ โครงงาน ของ Ce – ed สร้างเสร็จใหม่ ๆ ก็เป็นอันหลงไหลได้ปลื้ม กับน้ำเสียงที่ได้เป็นยิ่งนัก โดยผมใช้มันขับ power amp mosfet SE 10 W ซื่งแอมป์ตัวนี้ก็ diy เองกับมือผมเองอีกเช่นกัน เจ้าเครื่อง pre power ทั้ง 2 ต่างก็นำมาซึ่งความยินดีปรีดากับน้ำเสียงที่ได้ แถมยังทำให้หัวใจคับพอง ด้วยความภาคภูมิที่เราเองก็ทำได้และทำสำเร็จเสียด้วย......ตูก็เก่งเหมือนกันเว๊ยยยยย....(ผมคิดในใจ)

กระหยิ่มยิ้มหน้าบานได้ไม่นาน ก็เป็นอันต้องสะดุดหยุดกึก..! จากรอยยิ้มที่แทบจะฉีกถึงใบหูเห็นแม้แต่เหงือกและฟันแทบจะทุกซี่ แต่แล้วถึงกับปากจู๋เบิกตาโตด้วยความตื่นตะลึงพรึงเพริดดุจนางแบบ ญี่ปุ่น เกาหลี แอ๊บแบ๊ว ละคนตกใจ เพราะในจังหวะที่เปิด SW / ON pre – power ทั้ง 2 และได้พานพบประสบเจอว่าลำโพงอันสุดรักสุดแหนหวงมันมีเสียงดังปุ๊ ..! พร้อม ๆ กันนั้นกรวยของดอกลำโพงดุนดัน ทะลักถลนออกมาแทบจะหลุดจากโครงยึด โดยพลันนั้นมันก็สวิงดูดยุบคืนกลับอย่างสุดชีวิต ชนิดที่วอยซ์คอยกระแทกกับแม่เหล็กด้านในเข้าอย่างจังเต็มเหนี่ยว.........แม่เจ้า...เอาล่ะเว้ยย งานเข้าแล้วกู..!

ตั้งสะติได้ก็ลำดับกไตร่ตรองถึงสาเหตุที่มา แล้วจัดแจงถอดสายสัญญาน ที่ต่อพ่วงระหว่าง preamp – power amp ออกจากกัน แล้วลองเปิด สวิทช์เพาเวอร์แอมป์....บ๊ะ...ไม่เห็นเป็นไรเว๊ย งั้นลองต่อสายสัญญานระหว่าง preamp – power amp เข้าไปใหม่เสร็จแล้วลองเปิดสวิทซ์ทั้ง preamp – power amp อีกที เอาล่ะทีนี้ชัดเลย preamp pv-01 อันแสนภาคภูมิใจนี่เองที่ไม่ได้ใส่วงจร มิวติ้ง ทำให้เกิดการขยายแรงดัน ที่ไม่เรียบในจังหวะแรกออกจาก preamp pv-01 เข้าไป power amp ขยายออกลำโพงเต็ม ๆ ไปเสียฉิบ..

แม้จะเป็นแรงดันที่ไม่เรียบในจังหวะแรงที่หลอดยังไม่พร้อมจะทำงานปล่อยออกมาเพียงเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เราอกสั่นขวัญผวา เมื่อเห็นดอกลำโพงอันแสนรักแสนหวงของเรา ทะลัก ถลน ออกมาผิดปกติอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน..........อา...พี่น้องครับเยี่ยงนี้แล้วถึงเวลากันหรือยังที่เราจะต้องบูรณาการลงไม้ลงมือทำวงจร muting ใส่ preamp กัน ดีไหมครับ ..ถ้าเห็นว่าดีผมก็ขอเสียงดัง ๆ หน่อยคร๊าบบบบบ....โห้...ไอ้ทิดเล่นขอเสียงหาพรรคหาพวกหาแฟนคลับอย่างกับคอนเสิร์ท Af The star ค้นฟ้าคว้าดาวกันเทียวเร๊อะ...แหะ แหะ...

ชักช้า อืดอาด เยิ่นเย่อ ยืดยาวดุจละครจักร ๆ วงศ์ ๆ เช้าวันเสาร์ – อาทิตย์กิมิปาน ว่าแต่ว่าจะลงมือกันได้รึยังครับท่าน..เสียงจากแฟนคลับวัยรุ่นใจร้อนทักท้วง...55...ครับ ๆ ใจเย็น ๆ ครับเจ้านาย ถ้าอยากได้ไว ๆ หรืออดทนรอไม่ไหวก็ไม่ต้องทำหรอกครับ ง่าย ๆ ก็เพียงแค่เปิดเครื่องเสียงเรียงลำดับ จาก CD PREAMP POWER AMP แต่เว้นระยะช่องว่างระหว่าง pre amp ซัก 15 -20 วินาทีแล้วค่อยเปิด power amp ก็ใช้ได้และแก้ปัญหาอันมิพึงประสงค์ที่ว่านี้ได้เหมือนกันนะขอรับ...........น่าน.....ยอกย้อนเขาอีก..แหะ แหะ.. ไม่เอาว่ะ..หลวมตัวอ่านตั้งนานนม ถ้าขี้เกียจทำก็บอกกันตรง ๆ ก็ได้นินา แล้วจะมาแนะนำชักชวนให้ทำหาขี้เกลือกันไปทำไมล่ะครับพ่อเจ้าประคุ๊ณ.........ง่า...อย่างนี้เห็นจะยาวถ้าเช่นนั้นก็ ...จัดหนักเลยเพ่...
เอาล่ะจัดให้อย่างไวว่อง รายการที่ควรเตรียมเอาไว้มีดังนี้





1 C 470/50 v = 1 ตัว 10 / 50 v = 2 ตัว
2 R ¼ w 6 . 9 k = 1 ตัว 1 m = 1 ตัว 3 . 32 k ตัว 2 k = 1 ตัว
3 led = 1 ตัว
4 diod 1 n 4007 = 2 ตัว
5 ic 555 = 1 ตัว
6 Q c 557 = 1 ตัว
7 relay 12 v = 1 ตัว

วิธีสร้าง ก็ไม่ง่าย แต่ไม่ยากเกินความตั้งใจตามประสามือใหม่เช่นผมครับ โดยนำเอาลายทองแดงตามรูปตัวอย่าง เอาไปเขียนลายแล้วใช้น้ำยากัดลายได้เลยครับ กัดเสร็จเจาะรูแล้วลงอุปรณ์เลยนะครับ รูปตัวอย่างที่ วงกลมสีแดง นั้นเป็น C 10 / 50 v ซึ่งมีผลว่าจะให้หน่วงเวลา มาก / น้อย ขนาดไหน โดยในรูปตัวอย่างผม ใส่คร่อมกัน สองตัวค่าเดียวกัน เวลาที่ได้ประมาณ 15 – 20 วินาที ท่านจะให้มากกว่านี้ก็เพิ่มค่านะครับ เช่นกันจะให้น้อยก็ลดค่า ตามชิ้นงานและความเหมาะสมของแต่ละท่านละกันครับ ส่วน วงกลมสีน้ำเงิน เป็น led ชอบสีไหนก็เลือกได้เลย สามารถลากไปโชว์หน้าปัทม์ก็ได้เช่นกันโดยลักษณะการแสดงผล จะเป็น สองจังหวะ จังหวะแรกที่เปิด แสงจะหรี่ ๆ แต่หลังจากวงจรหน่วงเวลาทำงานแล้ว จะสว่างเต็มที่ ทั้งนี้ถ้าหากต้องการให้สว่าง มาก / น้อย ก็ให้เพิ่ม ค่า R 3 . 32 k ในกรณีต้องการแสงน้อย ๆ แต่ถ้าลดค่า ( ประมาณ 2 k ) จะได้แสงสว่างเพิ่มขึ้น
แหล่งจ่ายไฟก็ประมาณ 12 v DC แบ่งเอาจากไฟจุดใส้หลอดจำพวก 12 ax … ได้เลยครับ ส่วนการต่อใช้งานก็ใช้หลักการ ชอร์ท อินพุท ลงกราวด์ขณะที่วงจรทำงานจังหวะแรก แต่หลังจากที่วงจรหน่วงเวลาทำงานแล้วก็จะตัดหน้า รีเลย์ ออกจากกราวด์ทันที คงนึกภาพกันออกนะครับ.....เมื่อทุกอย่างเสร็จแล้วทุกท่านก็มีความสุขสมหวังกันถ้วนหน้าแหละหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะได้รับประโยชน์กันบ้างไม่มากก็น้อย สวัสดีครับ

Echo for mix

ฮั่นแน่...สนใจใช่ไม๊ล่า ..สนใจก็เริ่มกันเลยครับ หลายท่านชื่นชอบโปรดปราณ คลั่งไคล้ การร้องเพลงคาราโอเกะเป็นอย่างยิ่ง จะเห็นได้ว่าคาราโอเกะได้รับความนิยมเป็นอันมาก แทบจะทุกงานรื่นเริง จะขาดเสียมิได้เอาซะเลย สังเกตุดูสิครับเครื่องเล่น DVD ต่างก็มีลูกเล่น คาราโอเกะเสียบไมค์ได้ มี echo มาให้เสร็จสรรพ คุณภาพเสียงก็พอกล้อมแกล้มแก้ขัดเท่านั้นอันนี้ก็พอจะเข้าใจได้ว่าเครื่องเล่นราคา พันต้น ๆ มีฟังชั่นมาให้ครบ ๆ แต่จะหวังคุณภาพแบบสุด ๆ เห็นจะคาดหวังกันไว้สูงเกินไปสักหน่อย ถ้าจะเอาคุณภาพเต็ม ๆ เนื้อ ๆ มันก็ต้อง ใช้แอมป์สำหรับคาราโอเกะโดยตรง หรือไม่ก็เอาแบบเป็นการเป็นงานเป็นล่ำเป็นสัน ก็ต้องนี่เลยครับ Mixer ใช่แล้วครับ mix ที่ว่าตอบสนองความต้องการได้เต็มรูปแบบ อินพุทสัญญาณเข้ามากี่ช่องก็ไม่เกี่ยง หรือจะใช้ไมค์หลาย ๆ ตัวก็หายห่วง อันนี้ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า ส่วนมากจะแย่งไมค์กัน อยากโชว์เดี่ยว ซะส่วนใหญ่ เสียงไมค์ได้หลายช่อง โดนแย่งร้องกันพอดี 55 บางรุ่นสมัยเก่าก่อน ไม่ค่อยทำ echo มาให้ จะด้วยเหตุผลอะไรก็สุดแท้แต่ซึ่งก็เป็นผลทำให้เสียอัธรสในการร้องเพลงคาราโอเกะไปไม่น้อยกันเลยทีเดียว จะทิ้งไม่ใช้หรือขายซาเล้งก็กระไรอยู่ เงินทองยิ่งหายาก ๆ อยู่ เอาล่ะไม่มีมาให้ก็ไม่เห็นจะเป็นไร เลือด Diy สูบฉีดพลุกพล่านกันอยู่แล้ว หาวงจร echo มาใส่เพิ่มเติมกันดีกว่าครับ

วงจร echo ที่ดีต้อง มีปรับ speed delay acho มีแบบปรับ ทุ้ม ปรับ แหลม ได้ยิ่งดี ในกรณีนี้ไม่ต้องก็ได้เพราะ มิกเซอร์ มีให้ปรับแบบครบ ๆ อยู่แล้ว วงจร echo ที่ผมนำมาดัดแปลง ต่อเติม เพิ่มเข้ามาในเครื่องมิกซ์ ฯ นี้เป็น ROY ซึ่งผมซื้อเอาไว้หลายปีแล้ว ซึ่งในตอนแรกคิดไว้ว่าจะเอามาทำปรีไมค์เอคโค่สำหรับร้องเพลงคาราโอเกะ มัวแต่ทำอย่างอื่นเลยไม่ได้ทำสักที จนเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อนที่ทำงานนำ มิกซ์เชอร์ ซึ่งไม่มี echo เอามาให้ผมดัดแปลงใส่ ก็ได้ออกมาตามนี้ล่ะครับ

วงจร echo ของ ROY ข้อดีของเขามี วงเร็กติฟายในตัว จึงหมดปัญหาเรื่องไฟที่จะเอามาเลี้ยงวงจร และเป็น เอคโค่ที่ดีมากวงจรหนึ่งกันเลยทีเดียว น่าเสียดายที่ไม่มีขายกันแล้วใครมีเก็บเอาไว้ก็อย่าลืมเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์นะครับ วิธีทำก็ไม่ยากเท่าไหร่ เปิดฝาหลังมิกซ์ออกมา แล้วมองหา แจ๊กไมค์อินพุท แล้วก็มองจะเห็นสายที่ต่อมาจากแจ๊กไมค์มาเข้าวงจรปรีไมค์ของมิกซ์ เราก็จะใช้จุดนี้ล่ะครับ ตัดสายออกมาแล้วก็เอามาเข้า input ของวงจร เอคโค่ ในส่วน output ของวงจรเอคโค่ ก็เอามาต่อเข้ากับวงจรปรี ที่เราตัดออกมาทีแรกนั่นแหละครับ ง่าย ๆ สิว ๆ หุหุ ในส่วนของไฟเลี้ยงวงจรนั้น เอาก็แบ่งเอามาจากวงจรปรีไมค์ของ มิกซ์ ฯ เช่นกันครับ เพียงแต่ว่าเอามาแค่ เฟส + / 15 V กับกราวด์เท่านั้น นะครับ เอามาต่อเข้ากับ C ฟิลเตอร์ของวงจรตรง ๆได้เลย ถึงแม้ว่าวงจร เอคโค่นั้นต้องการไฟเลี้ยงวงจรแค่ 5 V เท่านั้น แต่ไม่ต้องกังวลเพราะว่ามี ic 7805 ทำหน้าที่เร็กกูเรตแรงไฟ ให้ในวงจรอยู่แล้ว...

สำเร็จแล้วก็ ทดลองฟังเสียงกันเลยครับ นำไมค์มาต่อแล้วก็ลองปรับแต่ดู ก็จะได้เสียงที่ก้องกังวาน หวานฉ่ำ ไม่แห้งแล้งเหมือนเดิมเป็นที่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เพื่อนเจ้าของเครื่องยังบอกเลยว่ารู้สึกเสียงจะใสกว่าเดิมและก็เป็นที่ถูกอกถูกใจเป็นยิ่งนัก ทีนี้ล่ะจะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์วันสงกรานต์ หรืองานเทศกาลต่าง ๆ ให้สนุกสุดเหวี่ยงกันไปเลย
จบแล้วครับ

humm

อันที่จริงพักเรื่องเครียดเกี่ยวกับการเมือง...ฝากหน่อยละกันสำหรับท่านที่ ชอบเสพเสวยสุขบนซากศพยัง Chip หายกันไม่หนำใจหรือไงครับ นี่ใช่ไหมประชาธิปไตยที่เรียกร้องกันนัก หยุดกันได้หรือยังครับ



ไม่มีคำบรรยาย...ดูรูปอย่างเดียวแล้วกัน อิอิ

ในสภาวะความตึงเครียดของสภาพสังคม หันซ้ายหันขวา หันหน้าหันหลัง ส่วนมากก็จะเจอแต่สิ่งที่มีผลกระทบต่ออารมณ์อันสุนทรีย์ยิ่ง..มานี่เลยผมถ่ายด้วยมือของตัวเอง อาจจะได้รอยยิ้มบ้างก็ยังดี จริงไหมครับ

Diy playstation 1 For Audio

ได้ยินไม่ผิดชวร์เลยครับ เครื่องเล่นเกมส์ playstation 1 หลายท่านที่เคยมี แต่ตอนนี้ไม่ได้ใช้แล้วเนื่องมาจาก มันเก่ามากแล้ว อีกทั้งเครื่องเล่นเกมส์ playstation ก็พัฒนาเรื่อยมาจนถึง Play 3 แน่นอน playstation 1 ก็คงมีจำนวนน้อยที่ใช้เล่นกันอยู่ หลายท่านเก็บ ๆ ทิ้ง ๆ เอาไว้ในโกดัง หรือไม่ก็ขายซาเล้ง แต่สำหรับท่านที่ยังเก็บเอาไว้อยู่ ก็เป็นข่าวดีเล็กน้อยครับ ว่ามันสามมารถเอามาโมดิฟาย เป็นเครื่องเล่น ซีดีสำหรับฟังเพลงได้ครับ ( อันที่จริงมันก็ได้แต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วล่ะ ) แต่ว่าจะเอามาฟังเพียว ๆ มันก็ออกจะผิดวิสัย นัก Diy อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ จริงไม๊..?



มันมีหลายรุ่นนะครับ ที่ว่ากันว่าเอามา Modify แล้วเสียงดี ชนิดที่เครื่องเล่น Cd สำหรับฟังเพลงราคาเรือนหมื่นบางเครื่องต้องได้อาย ( เขาว่าอย่างนั้น ) อย่ากระนั้นเลย ท่านที่มีเครื่องอยู่แล้ว ก็ลองเอามาจับ ๆ พลิก ๆ งัด ๆ แงะ ๆ ควักใส้ออกมาดูว่าเป็นรุ่นที่มี Chip Audio AKM AK 4309 AVM หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไรถึงจะทำไม่ได้แต่ก็อ่านเอาความรู้เฉย ๆ ก็พอ..หุหุ เสร็จแล้วทำไงต่อ..? อ้าวววว...ไอ้คุณท่าน จะไปรู้เร๊อะ ..!! เขียนเองแล้วยังจะมาถาม....หมู่นี้เล่นมุขนี้บ่อยนะนิ..55



เอ่อ ไอ้กระผมก็รู้บ้างไม่รู้บ้าง แต่ไม่รู้ซะเป็นส่วนใหญ่ 55 ผมเองก็พอดีว่ามีรุ่น ที่มี ชิป AK 4309 AVM อยู่พอดี และบังเอิญไปเจอ กระทู้ของคุณ http://www.htg2.net/index.php?topic=48043.50 ที่ลิ้งค์นี้พอดีและลองทำดูก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจและเห็นว่าเป็นประโยชน์ สำหรับท่านที่อยู่ไม่สุข ว่าง ๆ งานการไม่มีจะทำ และหาเรื่องอยากดมควันตะกั่ว ซักฟืดสองฟืด ให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย ก็เชิญได้เลยครับท่าน จัดแจง แกะแงะ ถอดออกมาซะ พวก C กระป๋อง คลับปลิ้ง ทางเดินสัญญาณเสียง ขา 15 - 16 ( R – L ) เสร็จแล้วก็จัดแจง หา C Wima 3.3 / 160 MKP แล้วก็ R 22 K / 1.5 W อย่างละ 2 ตัว แจ๊ก RCA = 2 ตัว เสร็จแล้วเดินสาย ตามรูปนะครับ.....เอาเลยครับจัดแจงตามนั้น




ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ เอ๊า..ลองฟังเสียงกันเลยท่านรอขั้นตอนนี้อยู่แล้วอย่างใจจดใจจ่อไม่ใช่รึ น้ำเสียงที่ได้ อันนี้เท่าที่ผมลองเปรียบเทียบกับเครื่องเล่น DVD Pioneer 595 K ของผมเองที่โม ฯ ใส้ในนิดหน่อยพอสมควรแก่การ เสียงที่ได้เป็นดังนี้ครับท่าน น้ำเสียงออกในแนว อบอุ่น อวบอิ่มนิ่มนวล เบสทุ้มลึกหนักหน่วง ฟังสบายหูดีมาก กลางแหลม อิ่มเอิบ แหลมอาจไม่ไกลพริ้วกรุ๊งกริ๊ง สด ๆ จะ ๆ ทุละปรุโปร่งเหมือน DVD Pioneer 595 K แต่ว่าทุกย่านเสียง มันช่างสมดุลกันดี เหมือนที่เขาว่ากันไว้จริง ๆ ว่า เสียงออกแนว Analog มากกว่าทีจะเสียบแทงทะแยงหูแบบ Digital เอาเป็นว่าคุ้มแสนคุ้ม มันดีกว่าเก็บเอาไว้ปาหัวใครสักคนที่ เราเกลียดขี้หน้า แน่ ๆ ครับกระผม ลองทำดูนะครับ