วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

เบ้า เปิบพิสดารแบบฉบับชาวอิสานของแท้


พักนี้หมดมุขบ่อยไอเดียตีบตันมืดบอดไม่โลดแล่นปรู๊ดปร๊าด   กว่าจะหาอะไรมาเป็นวัตถุดิบในการเขียนให้แควน ๆ ได้อ่านกันแต่ละอย่างแต่ละเรื่องนั้นแสนเข็ญ    ความที่ผมเป็นคนอีสานโดยรากเหง้าและหลัง ๆ นี่มีโอกาสได้กลับถิ่นกำเหนิดที่ต่างจังหวัดบ่อยๆ    อย่ากระนี้กระนั้นวันนี้ผมจะมาอภิปรายว่าด้วยเรื่องอาหารการกินของชาวอีสานกันอีกสักเรื่องกันดีกั่ว..เอ๊ย..! ดีกว่า...ฮ่า ๆ   ส้มตำปลาร้าเร๊อะทั่น  เฮ้ยไม่  ..มันพื้น ๆใคร ๆ เขาก็รู้จักกันแถมมีขายให้กินแทบทุกตรอกซอกซอย  เรียกได้ว่ามันเป็นอาหารดีสานที่ถูกยกระดับขึ้นเหลาเข้าขั้นอินเตอร์   และมันก็เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแทบทุกเกลุ่มทุกระดับชั้นกันแล้ว..   งั้นไข่มดแดง และแมลงทอดทั้งหลายล่ะ ตั๊กแตนทอด  หนอนไหมทอด  เขียดทอดอะไรจำพวกนี้น่ะ........ฮึ้ยยยย...นี่ยิ่งก็ไม่แปลกมีให้ซื้อหากินกันได้ไม่บากลำบนขนขวายเท่าใดนัก....เอ่อ.....ถ้างั้นมันคือสวรรค์วิมานชาเขียว ชูชิ อะไรกันล่ะครับคุณชาคริตคร๊าบบบ..??

เอ่อ..แห่ะ ๆ ...เบ้าครับรู้จักกันบ้างไหมล่ะครับเบ้าน่ะ..?? นั่นแน่   ไม่รู้ใช่ไหมเล่า  ไม่แปลกหร็อกที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก  แม้ผมเองคนอีสานโดย DNA แท้ ๆ ยังเลือนมะลายหายไปจากความทรงจำที่ล่วงเลยตามกาลเวลา  จวบจนวันที่ผมได้ไปเดินตลาดนัด ไทย-ลาว ที่อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนคพนมเมื่อคลาที่ผมกลับบ้านไวๆ ที่ผ่านมา   จึงได้ย้อนความทรงจำกับอาหารพิสดารอย่างเบ้าในวันนี้...   นั่นแม่นหยังครั่บ.? คำถามแรกที่ผมเห็นก้อนกลม ๆแต่ไม่เกลี้ยงคล้ายพลุหรือไม่ก็ลูกปืนใหญ่สมัยนเรศวร  มีขนาดเขื่องประมาณเท่าลูกเปตอง  ลูกเทนนิส สีดำ ๆ ทึบ ๆ เต็มกระสอบกระบุง........เบ้าครั่บบ่อฮู้จักติเบ้า..? คนขายตอบพลางสวนทางด้วยคำถามบวกสีหน้าไม่สบอารมณ์ อันเนื่องมาจากคนถามนั้น ( ผมเอง ) ดูหน้าตาก็บ่งบอกถึงรากเหง้าอย่างชัดแจ้งอยู่แล้ว   หาได้ละม้ายคล้ายคลึงเกาหลี ญี่ปุ่นหรือชนชาติเผ่าพันธ์อื่นแต่อย่างใดไม่  ดั้งก็แม่บ ๆ แก้มกรามรึก็โหนก ๆ  แถมทำลืมชาติกำเนิดมาถามเป็นว่าไม่รู้จักเบ้าซะงั้น....บ๊ะหมอนิแหมะ..ฮ่า ๆ


ครับ  ผมนึกย้อนความทรงจำตั้งแต่สมัยวัยเด็กรุ่นกระเตาะเลี้ยงวัวเลี้ยงควายกลางนากลางทุ่งโน่นแน่ะ    สมัยนั้นวิถีชีวิตคนอีสานโดยเฉพาะแถว ๆ บ้านผมหาได้อุดมสมบูรณ์เข้าถึงแหล่งอาหารการกินที่แหกขี้ตาตื่นขึ้นมา ก็มีรถกระบะเปิดท้ายขายของ หอยลาย  หอยแครง หอยแมลงภู่ ปลาทูสด  สับปะรถเราก็มี  ฝรั่งกรมสาลี่หวานกรอบ  ..ฯลฯ นั่นคือเสียงโทรโข่งลำโพงฮอร์นส่งเสียงเรียกสะตังค์ถึงหัวเตียงนอนที่หลายท่านคุ้นเคยเหมือนสมัยนี้..........แต่สมัยโน๊นอย่าฝันว่าจะมี  ถึงมีก็คิดหรือว่าจะมีสตุ้งสะตังค์เจียดซื้อ   การจะได้มาซึ่งอาหารสักมื้อมันต้องตื่นแต่เช้าสลัวโพล้เพล้แบกเสียมสำหรับขุดเขี่ยและอีกภาชนะสารพัดประโยชน์คือข้อง..(ข้อง..เป็นเครื่องจักสานเป็นอุปกรณ์สำหรับเอาไว้ใส่ปลาแต่ในที่นี้ใส่แมงกุดจี่ )  เดินแหวกอากาศอันสดชื่นเย็นสบายยามเช้ามุ่งหน้าลงกลางทุ่งนาจุดมุ่งหมายเพื่อหาแมลงชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ตามมูลของสัตว์โดยเฉพาะขี้ควาย...ใช่แล้วครับมันคือแมงกุดจี่

 

อ้าว..แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเบ้าล่ะแมงกุดจี่นั่นนะ    ใจเย็น ๆ ครับทั่นผมกำลังจะค่อย ๆ เล่าอัธถาธิบายให้ท่านที่เขาไม่รู้จักจริง ๆ เพื่อจะได้จินตนาการออกว่ามันมีความเป็นมายังไง     อ้าว..งั้นมันเปิบวิตระถาล..  เอ๊ยพิสดารกันตรงไหนล่ะ เบ้าเบ้วอะไรนั่น..........?  อ่า.......คุณชาคริตครับ  คุณชาคริตพอจะเคยเห็นเคยรู้จักแมงกุดจี่กันคร่าว ๆ แล้วใช่ไหม...หึ    งั้นตัวอ่อนของหนอนไหมล่ะ  หรือรถด่วนก็น่าจะเคยได้ลองชิมกันมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ    ผมกำลังจะบอกว่า เบ้า น่ะก็เป็นตัวอ่อนของแมลงชนิดหนึ่งในสายพันธ์เดียวกันกับแมงกุดจี่นั่นล่ะ   เพียงแต่ตัวมันใหญ่พิเศษกว่าประมาณเท่า ๆ กับตัวแมลงกว่างที่กลุ่มชนชาวภาคเหนือเขาเลี้ยงไว้เพื่อความบันเทิงเพลิดเพลิน  โดยจับมันมาชนกันนั่นแล  แถมยังมีความเหมือนทั้งสีสัน หน่วยก้านหน้าตายังกับแกะจะผิดแผกแตกต่างก็แค่  มันไม่มีเขายื่นโค้งสวยงามออกมาแค่นั้นเอง    เอ...หรือว่ามันตัวเดียวกันฟระชักงง..?


คุณชาคริตครับ แมลงชนิดนี้หลังจากผมว่างจัดเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของมันด้วยประสบการณ์ตอนเด็ก ๆนั้น  มันจะขยายเผ่าพันธ์ของมันด้วยความภาคเพียรนะครับ   โดยมันขุดหลุมเอาไว้หลุมใหญ่  ๆ ลึก ๆ ได้อย่างสุดทึ่งด้วยแป้นตรงหัวของมันคล้าย ๆ ใบตักเกรดเกลี่ยของรถแทรกเตอร์  และขณะเดียวกันมันก็ไปกลิ้งเอามูลของสัตว์ไม่ว่าจะเป็น ขี้วัว ขี้ควาย หรือมูลของสัตว์อื่น ๆ  หรือแม้กระทั่งอาจมีขี้คนเสียด้วยซ้ำ..ฮ่า ๆ  วิธีการกลิ้งนั้นก็พิสดารพันลึกไม่แพ้กันโดยจะมันก้มหัวลงพื้น  ยกขาหลังพยุงเคล้าคลึงกับก้อนมูลของสัตว์ลำเลียงโดยการกลิ้งเอาไปเก็บไว้ในหลุมที่มันขุดเอาไว้    ครับยิ่งกลิ้งก็ยิ่งกลมยิ่งกลิ้งก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้นด้วยว่ามูลสัตว์ที่มันกลิ้งเอาไว้ฟักตัวอ่อนนั้นได้มาจากขี้วัวขี้ควายค่อนข้างใหม่สด  เรียกว่ายังอ่อนนุ่มพอเหมาะเพื่อการนี้ว่าอย่างนั้น...

 

หลุมแต่ละหลุมนั้นก็จะมีหลายก้อนด้วยกัน   และภายในก้อนกลม ๆ ขนาดเขื่องนั้นมันจะมีตัวอ่อนของมันนอนแน่นิ่งรอเวลาเป็นอาหารประทังชีวิตของสัตว์ชนิดหนึ่งที่เรียกตนเองว่า คน....ฮ่า ๆ ...  ไม่ช่ายยยย....มันรอเวลาฟักตัวออกมาจากตัวอ่อนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แต่ถูกปกป้องอนุบาลฟูมฟักเป็นอย่างดีภายในก้อนกลม ๆ นั้น   ก่อนจะฟักออกมาเป็นตัวแก่ที่พร้อมเจริญเติบโตครบวัฎจักรวงจรชีวิตของมันล่ะครับ   แต่ถึงยังงั้นก็ยังไม่วายหลุดรอดสายตาอันกระหายหิวของนักล่าอันดับหนึ่งของห่วงโซ่อาหารอย่างมนุษย์ก็หาไม่   ครับตัวอ่อนของมันนั่นล่ะครับที่ถ้าเราเจอะเจอรังของมันแล้วต้องคิดคำนวนเวลาเฝ้ารอเป็นเดือน ๆ   จนกว่ามันจะโตเต็มที่พอดีอร่อยภายในก้อนกลม ๆ นั่น แต่ไม่ถึงกับออกมาเป็นตัวนะครับ   ส่วนการจะนำตัวอ่อนออกมาทำเป็นอาหารด้วยกรรมวิธีใดสูตรไหนนั้น   ก็สุดแท้แต่เชฟแต่ละทั่นใครจะคิดค้นกันล่ะครับ   อย่างง่าย ๆ แบบผมนั้นก็แค่คั่วในกระทะใส่เกลือ  หรือไม่ก็คั่วด้วยน้ำมันนิด ๆ  โรยเกลือหน่อย ๆ  แค่นี้ก็สวรรค์รำไรกันแล้วล่ะครับทั่นผู้ชม…………..


เป็นยังไงกันบ้างล่ะสำหรับอาหารพิสดารพิลึกพิลั่นในวันนี้    ครับถึงแม้ว่าก้นจานหรือใต้ฝากระติบข้าวจะไม่มีรหัสชิงโชครวยเปรี้ยง    ผมก็หวังว่าคงถูกอกถูกใจไม่มากก็น้อย  และบอกกล่าวกันตรงนี้ว่ายังครับยังมีอีกพอสมควรนะสำหรับของกินแปลก ๆ พิสดารตามแบบฉบับของชาวอีสานซึ่งก่อนหน้านั้น  คือข้าวเม่า  เที่ยวนี้มาแปลกว่าด้วยเรื่องของเบ้าส่วนตอนหน้านั้นจะเป็นเรื่องอะไรก็คอยติดตามกันเอาเองก็แล้วกันนะครับ..........ว่าแต่  ..ตกลงสูเจ้าจะไม่เขียนเกี่ยวกับงาน DIY  และจะหันมาเอาดีเขียนเรื่องเกี่ยวกับของกินกันแล้วใช่ไหมห๊า...???





5 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากครับ ท่านเจ้าของบทความมีลีลาการเขียนไม่เบาทีเดียว
    อ่านแล้วได้ความรู้ และเพลิดเพลินดีครับ หวังใจไว้ว่าคงมีเรื่องราวดีๆ
    ให้ได้อ่าน ได้ศึกษาอีกนะขอรับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่ เห็นด้วย ครับ

      ลบ
    2. ขอบคุณมากครับผมที่ติชมเห้นด้วยและเห็นแย้ง..55

      ลบ
    3. ขอบคุณมากครับผมที่ติชมเห้นด้วยและเห็นแย้ง..55

      ลบ
  2. คิดถึงห้องสับถังจังเลยครับพี่....ขอบคุณครับที่แวะเข้ามาอ่านเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ ที่ผมเขียนเอาไว้ครับ...55

    ตอบลบ