ทุกวิถีชีวิต ทุกวงการ ทุกแขนงงาน สาขาอาชีพ ทุกพฤติกรรม วัฒนธรรม ประเภณีอะไรต่าง ๆ
หลากล้วนแต่มีคำศัพธ์ คำแสลงไว้เรียกขานเฉพาะ เจาะจง เกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ อาจจะด้วยความชอบ
ด้วยความรัก เกลียดโกรธ ด้วยประชด ประชันเย้ยหยัน ล้อเลียน เสียดสี
หรือจะอะไรนั่นก็สุดแท้
จักรยานก็เฉกเช่นเดียวกันดังที่จะกล่าวอ้างในวันนี้.....
กระแสในบ้านเมืองเรา
ณ.ตอนนี้นั้นปฏิเสธกันไม่ได้ครับ
เกี่ยวกับจักรยานที่กำลังรุ่งเรืองเฟื่องฟูอย่างสุดขีด อันเนื่องมาจากหลากหลายเหตุปัจจัยเกื้อหนุนเช่น
เป็นพาหนะอันนี้สำหรับหลายท่านที่เบื่อค่านิยมและระบบคมนาคมที่ล้มเหลวของเมืองไทย เป็นอุปกรณ์กีฬาฉันทนาการอันนี้ดีหน่อยผู้คนสมัยนี้รักสุขภาพรักสวยรักงามโดยเฉพาะสาวใสวัยรุ่นหลงใหลใผ่ฝันผิวขาวอมชมพูสำหรับสุภาพสตรี แต่..เรื่องนี้คงไม่ใช่..55 เป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับบารมีบ่องบอกสถาณะ ข้อนี้นั้นคงไม่ใช่สำหรับผมอย่างแน่นอน แม้ว่าส่วนตัวแล้วอยากจะมีจักรยานที่มีเทคโนโลยี่วัสดุสุดล้ำยิ่งกว่าอากาศยาน ชุดขับเคลื่อนและอะหลั่ยสุดหรู น้ำหนักที่เบาหวิว แต่ราคาหลาย ๆ แสนถึงหลักล้านก็ตาม....ใครเบื่อ
ๆ จะบริจากอุปกรณ์กีฬา (จักรยานคาร์บอน)แก่ผู้ยากไร้อย่างผมก็ขอเชิญนะครับ.....และยังมีเหตุผลหลายอย่างจิปาถะที่เป็นมูลเหตุแห่งความรุ่งเรืองของจักรยาน
เอาล่ะต่อไปนี้กระผมจะพาทุก
ๆ ท่าน ที่อยากจะรู้และทั้งที่ไม่อยากจะสนใจใคร่รู้ ได้มาทำความรู้จักกับศัพธ์ต่าง ๆ
ที่ผองเหล่ามวลมหาประชาจักรยานเขาเรียกขานอะหลั่ยชิ้นส่วนประกอบต่าง ๆ ของยวดยานพาหะนะชนิดนี้ในอีกมุมอีกด้านหนึ่งซึ่งไม่ค่อยจะมีใครมาบอกเล่าที่มาที่ไปกัน เรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับจักรยานถ้าอยากจะศึกษาก็หาอ่านกันได้ไม่ยากทั้งเรื่องทฤษฏีทั้งเรื่องเทคนิก ทั้งเรื่องข้อแนะนำ วิเคราะห์วิจารณ์เปรียบเทียบแต่ละรุ่นแต่ละประเภทแต่ละยี่ห้อ ทั้งเรื่องเกี่ยวข้องโดยตรงและไม่เกี่ยวข้องใด
ๆ เลย ศึกษาหาอ่านกันได้ง่าย ๆ ทั่ว ๆไป จะเป็นเว็ปไซด์
หรือในหนังสือนิตยสารมีให้ศึกษาเรียนรู้อย่างครบครันแต่วันนี้ผมขอบอกเล่าพูดคุยเป็นกาลเฉพาะแง่หนึ่งมุมหนึ่งที่ไม่ค่อยจะมีใครกล่าวถึง ซึ่งก็นับว่าเป็นโอกาสดีที่ผมจะได้นำเสนอ......เริ่มกันเลยครับพี่น้อง
ท่อตั้ง..?ห๊ะ..!! อะไรนะ..?มันคืออะไรตรงไหนอ่ะท่อตั้ง ..? บางท่านได้ยินเขาพูดถึงกันพร้อม ๆ กับตั้งคำถามสวนกลับ เคยเห็นเคยเป็นแต่
..ท่อนตั้ง อ่า.. ซึ่งบางครั้งก็ตั้งบ้างล้มบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะหนักไปทางล้มคอพับคออ่อน
ไม่ค่อยตั้ง..( ฮา ) เอิ่ม...
มันก็คือส่วนประกอบของเฟรมนั่นยังไงครับ
และเฟรมที่ว่านี้
ไม่ว่าจะเป็นเฟรมชนิดไหน
จะคาร์บอนเอย มิเนียมเอย ไม้เอย
ไทเทเนียเอย โครโมลี่เอย ส่วนใหญ่ต่างก็ล้วนมีท่อนตั้ง เอ๊ย..! ท่อตั้งด้วยกันทั้งนั้น โดยให้เราสังเกตุจากเบาะที่เรานั่งนั่นแหละ จะมีท่อ ตรงแบบเฉียง ๆ เอียง ๆ เยื้องลงไปถึงกระโหลกนั่นละท่อตั้ง หรือจะเรียกว่า ท่อนั่ง นั่นมิผิด
สรุปก็คือเรียกตามลักษณะในการใช้งานว่าอย่างนั้น........ก็หมดไปหายสงสัยไปหนึ่งรายการ..ฮ่า
ๆ
กระโหลก..? มีด้วยเร๊อะ..?
กระโหลกเนี่ยนะ..?
ใช่ครับทั่นครับนอกจาก กระบาล เอ๊ย..! กระโหลกของคนปั่นแล้วจักรยานเองก็มีกระโหลกด้วยนะเออ......ถึงแม้นว่าหน้าตาซึ่งดูแล้วเพ่งพินิจแล้ว วิเคราะห์ไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ยังไงยังไงก็ไม่เห็นว่าจะมีส่วนไหนมุมใดที่มีความละม้ายคล้ายคลึงกระโหลก อัธถาธิบายพูดไปพูดมาพาลให้ปวดกระบาลทั้งคนพูด
คนฟังเป็นอย่างยิ่ง
แล้วมันคืออัลลัยอยู่ตรงส่วนไหนกันฟระ..?
..แหะ ๆ ใจเย็น ๆ ครับขอกินพาราบรรเทาอาการปวดกระบาลแป๊ป ...ก็ตรงนี้ไง
ตรงที่มันเป็นจุดศูนย์รวมของชิ้นส่วนหลัก ๆของเฟรม ไม่ว่าจะเป็น ตะเกียบหลัง
ท่อนั่ง ท่อล่าง มาบรรจบกัน ณ .
จุดจุดนี้เรียกว่ากระโหลกซึ่งในตัวของกระโหลกเอง
ก็จะมีลูกปืนรางลื่นอยู่ด้านในไว้ประคองแกนบันไดสำหรับออกแรงถีบปั่น ซึ่งชุดแกนกระโหลกนั่นก็ก็จะมีทั้งแบบ เหลี่ยม แบบกลวง
และขนาดแตกต่างกันตามแต่ผู้ผลิตเขาจะคิดค้นเอาไว้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการลดความฝืดแรงต้านทั้งหลาย
อีกทั้งยังเป็นจุดศูนย์ถ่วงองศาของเฟรมแต่ละชนิด แต่ละยี่ห้อของผู้ผลิตเขาจะออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพความเป็นเลิศด้านสมรรถนะ..........อ่ะ....ก็ในเมื่อลำใยยังมีกระโหลกทำไมจักรยานจะมีด้วยไม่ได้เล่า...จบไปอีกหนึ่งสำหรับกระโหลก
กระโหลก..? มีด้วยเร๊อะ..?
กระโหลกเนี่ยนะ..?
ใช่ครับทั่นครับนอกจาก กระบาล เอ๊ย..! กระโหลกของคนปั่นแล้วจักรยานเองก็มีกระโหลกด้วยนะเออ......ถึงแม้นว่าหน้าตาซึ่งดูแล้วเพ่งพินิจแล้ว วิเคราะห์ไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ยังไงยังไงก็ไม่เห็นว่าจะมีส่วนไหนมุมใดที่มีความละม้ายคล้ายคลึงกระโหลก อัธถาธิบายพูดไปพูดมาพาลให้ปวดกระบาลทั้งคนพูด
คนฟังเป็นอย่างยิ่ง
แล้วมันคืออัลลัยอยู่ตรงส่วนไหนกันฟระ..?
..แหะ ๆ ใจเย็น ๆ ครับขอกินพาราบรรเทาอาการปวดกระบาลแป๊ป ...ก็ตรงนี้ไง
ตรงที่มันเป็นจุดศูนย์รวมของชิ้นส่วนหลัก ๆของเฟรม ไม่ว่าจะเป็น ตะเกียบหลัง
ท่อนั่ง ท่อล่าง มาบรรจบกัน ณ .
จุดจุดนี้เรียกว่ากระโหลกซึ่งในตัวของกระโหลกเอง
ก็จะมีลูกปืนรางลื่นอยู่ด้านในไว้ประคองแกนบันไดสำหรับออกแรงถีบปั่น ซึ่งชุดแกนกระโหลกนั่นก็ก็จะมีทั้งแบบ เหลี่ยม แบบกลวง
และขนาดแตกต่างกันตามแต่ผู้ผลิตเขาจะคิดค้นเอาไว้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการลดความฝืดแรงต้านทั้งหลาย
อีกทั้งยังเป็นจุดศูนย์ถ่วงองศาของเฟรมแต่ละชนิด แต่ละยี่ห้อของผู้ผลิตเขาจะออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพความเป็นเลิศด้านสมรรถนะ..........อ่ะ....ก็ในเมื่อลำใยยังมีกระโหลกทำไมจักรยานจะมีด้วยไม่ได้เล่า...จบไปอีกหนึ่งสำหรับกระโหลก
ตีนผี..? ....ง่ะ...! จักรยานที่เราขี่ ๆ ปั่น ๆ กันนี่นะมันมีตีนผีกันด้วยเร๊อะนี่..?
โว๊ะ..สงสัยมากเดียวโดน..ตรีนกรู..ซะดีมะเนี่ย..!!!...ฮ่า ๆ หามิได้ครั่บ อันตีนผีนี่มันสร้างความมึนงง สับสน
ชวนพิศวง งวยงง โคตรงึด..? สำหรับผมมาแล้วครับ ก็ด้วยเพราะว่ามันมีมูลเหตุไหน แรงจูงใจอะไรหนอ
ถึงได้พากันเรียกขานขนานนามกันว่า
ตีนผี ....ผมเองก็พอจะรู้แล้วว่ามันอยู่ตรงไหนและทำหน้าที่อะไร พินิจพิเคราะห์ไตร่ตรองถถ้วนถี่ กี่หนกี่ทียังมองไม่เห็นตรงไหนว่ามันเหมือน
ตีนผี...หรือแม้กระทั้ง ตรีนกรูเอง
นั่นยิ่งไม่เหมือนเข้าไปใหญ่...(ฮา)
ครับตีนผีเองก็มีใช้กับจักรยานไม่กี่ชนิดไม่กี่ประเภทเท่านั้นนะครับ....จักรยานแม่บ้าน บางรุ่นก็มีบางรุ่นก็ไม่มี BMX Fixgearนี่ตัดไปได้เลยเท่าที่นึกได้ไม่มีแน่นอน......เอาเป็นว่าเจ้าตีนผีที่ว่านี่
จะอยู่กับจักรยานที่มีระบบเกียร์เป็นส่วนประกอบหลัก..และถึงแม้นว่าจะเป็นส่วนประกอบหนึ่งของระบบเกียร์ก็ขอยกเว้นเอาไว้สำหรับเกียร์ดุมนะครับ ซึ่งเกียร์ดุมชนิดนี้นั้น ไม่มีตีนผีนะขอรับ.......ทีนี้มาว่ากันว่ามันสิงสถิตย์อยู่
ณ.ตรงส่วนใดบริเวณไหนในจักรยานของเรา
เห็นล้อหลังจักรยานของเราไหมครับ
อ่า...น่านล่ะเห็นแล้ว และ
ดุมล้อล่ะเห็นไม๊..? อ่า...เห็น แล้วเฟืองล่ะเฟืองหรือ ที่เรียก ๆ
กันว่าสเตอร์นั่นแหละเห็นมะ.......อ่า..เห็น เห็นเหมือนกัน...เอ้อเก่ง..ปรบมือปรบมือ..
ทีนี้ลองสังเกตุเพ่งพินิจดูหน่อยสิว่าข้าง
ๆ สเตอร์อยู่ด้านนอกที่ยึดโยงและมีโซ่ห้อยต่องแต่ง น่านล่ะครับที่ผู้คนเรียกขานกันว่าตีนผีล่ะ......
เห็นรึยังล่ะเหมือนไหมเล่าตีนผีอลเวงพิศวงนั่นน่ะ..? ฮ่า ๆ ...ครับในตัวตีนผีเองก็จะมีสปริงและลูกรอกประคองโซ่ให้ตึงกำลังดี
อยู่ 2 ลูกด้วยกัน
คอยสับเปลี่ยนเฟืองเกียร์ตามสั่งตามจังหวะการดึงสายสลิงให้เหมาะสมตามสถานการของผู้ขับขี่นั่นคือประโยชน์หน้าที่หลัก
ๆ ของ ตีนผีเขาล่ะ ...เมื่อก่อนผมเองได้ยินมาแต่ยังไม่รู้ แรกเริ่มเดิมทียังพาลเข้าใจคิดว่าการปั่นจักรยานให้มีประสิทธิภาพนั้นมันเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสอยู่แล้ว
และจะดีไม่น้อยถ้าได้ตีนอีกสักตีนสองตีนมาช่วยถีบส่ง ถึงแม้มันจะเป็นแค่ตีนผีก็ตาม..... ......ตีนผี
สับถัง..? สับคอ
ชิฟเตอร์.......ตามแต่จะเรียกให้มึนงงพิลึกพิลั่น คนนอกวงการ คนฟังเมามึน และยิ่งงวยงงสับสนเท่าไหร่ก็ยิ่งดูดีมีมูลค่าแก่ผู้รู้ จะได้อัธถาธิบายให้คนไม่รู้ได้เข้าใจอย่างภาคภูมิเป็นเกียรติประวัติ...55
สับทำไม..?
สับเพราะอะไร..? เพื่ออะไร..? สับตอนไหน..?และใครบ้างที่ต้องสับ..? 555...ทั่นผู้ชมทั่นผู้ฟังที่เคารพครับผมขอชี้แจงตรงนี้เลยว่าในหัวข้อนี้ผมกำลังเร่งรีบกระตือรือล้นที่จะคลายความสงสัยของทุกคนทุกท่านเป็นการด่วนก่อนที่กระผมเองจะถูกสับด้วยปังตออรัญญิก ด้วยความโมโหเหลืออดจากน้ำมือของทั่นผู้ชมเอง..55 ..คืองี้ครับ
สมัยโบราณการณ์ยุคเรอร์เนอร์ซองค์..เย๊ย..ไม่ใช่สิ..ยุคสมัยเฟรมท่อเหล็กกล้า
ท่อเหล็กโครโมรี่ ครั้งกระโน้นนั้น
จักรยานเพื่อการแข่งขันหรือจำหน่ายเรื่มจะมีเกียร์ใช้กันแล้วนะครับหลายทั่นรู้รายละเอียดได้ดีกว่าผม
และคันเกียร์สำหรับโยกหาแต่ละเกียร์ให้เหมาะตามสถาณการณ์นั้น ก็ติดตั้งเอาไว้ตรงท่อล่าง เยื้อง ๆ
มาทางถ้วยคอ
เหนือขากกระติกน้ำนั่นแลครับทั่น
โดยคันเกียร์ขนาดพอเหมาะแอ่นโค้งรับนิ้วมือเล็กน้อยที่ว่านี้จะติดตั้งเอาไว้ทั้งสองฝากฝั่งของเฟรมท่อล่าง ในตำแหน่งที่คิดว่านักขับขี่จะถนัดในการใช้งานปรับเปลี่ยน
และเป็นไปอย่างฉับไวแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง โดยฝั่งซ้ายของมือเราขณะคร่อมอยู่นั้น
เอาไว้โยกออกคำสั่งไปสั่งสับจาน..?
ฝั่งขวามือนั้นเอาไว้โยกสำหรับสับเปลี่ยนเกียร์เปลี่ยนเฟืองก็ว่ากันไป...แต่สิริรวมแล้ว
คันเกียร์ที่ว่านี้ติดตั้งเอาไว้กับตัวถังหรือเฟรมท่อล่างใกล้ ๆ
ถ้วยคอเลยเรียกกันติดขานแบบเทห์ ๆ ตามพฤติกรรมการใช้งานเอาซะเลยว่า สับถัง...ขอรับทั่นผู้ชม….ทีนี้เข้าใจละนะตะเอง..55
สับถัง..? สับคอ
ชิฟเตอร์.......ตามแต่จะเรียกให้มึนงงพิลึกพิลั่น คนนอกวงการ คนฟังเมามึน และยิ่งงวยงงสับสนเท่าไหร่ก็ยิ่งดูดีมีมูลค่าแก่ผู้รู้ จะได้อัธถาธิบายให้คนไม่รู้ได้เข้าใจอย่างภาคภูมิเป็นเกียรติประวัติ...55
สับทำไม..?
สับเพราะอะไร..? เพื่ออะไร..? สับตอนไหน..?และใครบ้างที่ต้องสับ..? 555...ทั่นผู้ชมทั่นผู้ฟังที่เคารพครับผมขอชี้แจงตรงนี้เลยว่าในหัวข้อนี้ผมกำลังเร่งรีบกระตือรือล้นที่จะคลายความสงสัยของทุกคนทุกท่านเป็นการด่วนก่อนที่กระผมเองจะถูกสับด้วยปังตออรัญญิก ด้วยความโมโหเหลืออดจากน้ำมือของทั่นผู้ชมเอง..55 ..คืองี้ครับ
สมัยโบราณการณ์ยุคเรอร์เนอร์ซองค์..เย๊ย..ไม่ใช่สิ..ยุคสมัยเฟรมท่อเหล็กกล้า
ท่อเหล็กโครโมรี่ ครั้งกระโน้นนั้น
จักรยานเพื่อการแข่งขันหรือจำหน่ายเรื่มจะมีเกียร์ใช้กันแล้วนะครับหลายทั่นรู้รายละเอียดได้ดีกว่าผม
และคันเกียร์สำหรับโยกหาแต่ละเกียร์ให้เหมาะตามสถาณการณ์นั้น ก็ติดตั้งเอาไว้ตรงท่อล่าง เยื้อง ๆ
มาทางถ้วยคอ
เหนือขากกระติกน้ำนั่นแลครับทั่น
โดยคันเกียร์ขนาดพอเหมาะแอ่นโค้งรับนิ้วมือเล็กน้อยที่ว่านี้จะติดตั้งเอาไว้ทั้งสองฝากฝั่งของเฟรมท่อล่าง ในตำแหน่งที่คิดว่านักขับขี่จะถนัดในการใช้งานปรับเปลี่ยน
และเป็นไปอย่างฉับไวแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง โดยฝั่งซ้ายของมือเราขณะคร่อมอยู่นั้น
เอาไว้โยกออกคำสั่งไปสั่งสับจาน..?
ฝั่งขวามือนั้นเอาไว้โยกสำหรับสับเปลี่ยนเกียร์เปลี่ยนเฟืองก็ว่ากันไป...แต่สิริรวมแล้ว
คันเกียร์ที่ว่านี้ติดตั้งเอาไว้กับตัวถังหรือเฟรมท่อล่างใกล้ ๆ
ถ้วยคอเลยเรียกกันติดขานแบบเทห์ ๆ ตามพฤติกรรมการใช้งานเอาซะเลยว่า สับถัง...ขอรับทั่นผู้ชม….ทีนี้เข้าใจละนะตะเอง..55
สับจาน..?นี่งัย..นี่งัยอ่า..? ตะกี้สับถัง
มาตอนนี้สับจาน เออเว้ยเฮ้ย..!
นี่มันจักรยานนะเว้ยเฮ้ย
ไม่ใช่รายการทำอาหารจะได้หั่น ๆ ซอย ๆ โขก ๆ สับ ๆโขก ๆ ปั่น ๆ .. แหะ ๆ..ใจเย็น ๆ ครับคุณชาคริตครับ วงการ
ลูกน้องกะนายจ้างนี่ก็ใช้กันได้นะคร้าบโขก ๆ สับ ๆ เนี่ย.. ว่าแต่มันอยู่ตรงไหนทำหน้าที่อะไรบ้างล่ะไอ้สับจานนี่น่ะ สับปลาสับเนื้อสับหมูไม่ได้เร๊อะ..? สับกระบาลมึงสิ..!!! (ผู้อ่านชักโมโห)..บอกมาไว
ๆ.. คร้าบคร้าบ..แหะ ๆ บันไดที่เราใช้เท้าบรรจงถีบนั่นน่ะหาเราพิจรณาดูก็จะมีจานเฟือง อยู่ประมาณ 1-2 หรือไม่ก็ 3 แล้วแต่จักรยานในแต่ละประเภท
ซึ่งแต่ละจานหรือแต่ละเฟืองนั่นก็มีขนาดลดลั่นกันพอสมควรสังเกตุเห็นชัดอีทีนี้แต่ละจานก็ทำหน้าที่ตามแต่สถาณการณ์ของคนปั่น จานใบใหญ่สุดใช้รอบขาน้อย ๆ
แต่รถยังวิ่งทำความเร็วได้ดีแต่หนักหน่วงถ่วงขาดีแท้ จานใบกลางถัดลงมาใช้รอบขาปั่นเร็วขึ้นมาหน่อยและก็ปั่นเบาสบายขากว่าใบใหญ่อยู่พอสมควร ใบเล็กสุด ( ส่วนใหญ่ เสือภูเขา
ทัวร์ริ่ง )
ไว้สำหรับปั่นขึ้นเน็นชัน ๆ
ใบเล็กสุดนี่ล่ะที่จะทำหน้าที่ทดแรง
นำพารถรวมทั้งตัวเราด้วยปั่นขึ้นเนินไปได้ด้วยดีก่อนที่จะสำรอกข้าวเหนียวหมูปิ้งออกมาก่อนถึงยอดเขา ซึ่งในการสับเปลี่ยนใบจานกันไปมานี่ล่ะที่เป็นหน้าที่ของ อุปกรณ์ชนิดนี้ที่เรียกว่า........สับจาน……เป็นไงศัพธ์แต่ละอย่างของจักรยาน เอากะเขาสิ..
มือตบ..? ห๊ะ..!! อะไรกันวะ..?
นี่ชักจะเริ่มเหิมเกริมใช้ความรุนแรงดิบเถื่อนขึ้นเรื่อย ๆ กันเลยนะเนี่ย
อะไรกันนักกันหนาวุ้ย...จะขี่จักยานทั้งทีนอกจาก ตีน
จะใช้ถีบแล้ว มือก็ยังจะต้องใช้ตบด้วยเร๊อะ....ว่าแต่ จะตบใคร
อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ล่ะ..?พูดคุยกันดี
ๆ แค่มีคำสั่งให้มารายงานตัวมิได้เร๊อะ...?
ทำไมถึงจะต้องใช้กำลังถีบตบกันด้วยด้วยเล่า ว่าแต่ตอนจะตบนี่ควรใช้หน้ามือหรือหลังแหวนดีล่ะ..?..แหม่
ๆ ๆ..ทั่นผู้อ่านนี่ก็น่านะ..55
จักรยาน
เสือหมอบหรือแม้กระทั้งเสือภูเขาบางรุ่นในยุคสมัยนี้นั้น ผู้ผลิตชุดเกียร์ชั้นนำทั้งหลายต่างก็ผลิตและออกแบบชุดมือเกียร์และเบรค
รวมเอาไว้ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวปรองดองสมาณฉันท์เวลาจะใช้งานจะได้สะดวกแคล่วคล่อง
แม่นยำ ฉับไว และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดติ่งทันท่วงทีหรือที่หลาย ๆคนเรียกขานกันหรู
ๆ ว่า ชิฟเตอร์ นั่นเอง
เวลาเราจะปั่นเล่นปั่นออกกำลังกายหรือกระทั่งขณะแข่งขัน สมาธิของผู้ขับขี่ต้องแน่วแน่เป็นสำคัญ
ทุกสัดส่วนของร่างกาย
ต้องจัดระเบียบตามลัษณะท่วงท่า โดยเฉพาะมือคอยสนองตอบรับคำสั่ง ว่าต้องการเบรค เปลี่ยนเกียร์ขึ้น / ลง หนัก / เบา ..จะต้องเป็นไปอย่างมั่นคงแต่ทว่านุ่มนวล
ลื่นไหลมือไม้ไม่เกะกะปัดป่ายทุกอย่างจะต้องราบรื่นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดสู่ความเป็นเลิศอย่างที่กล่าว.........เพราะฉนั้น มือเบรคที่รวมมือเกียร์เอาไว้ในหนึ่งเดียวกันนี้ก็เลยเรียกขานกันตามพฤติกรรมลักษณะการใช้งาน ว่ามือตบ......เข้าใจตรงกันนะ.....ฮึ้ยยยยยย
ที่มาของภาพประกอบมือตบขอขอบคุณลิ้งค์นี้ครับ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=60&t=228422
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น