วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

หนองฝรั่ง ตำนานหนองน้ำมรดกแห่งสงคราม

แตกเศิ้กแตกเสือ..(แตกศึกสงคราม) คือคำพูดเตือนสติปนขู่ลูกหลานให้ระมัดระวังตัวตื่นรู้ทันเหตุการณ์ของปู่ย่า ตายายช่วงสมัยผมวัยยังละอ่อน  แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่เด็ก ๆ อย่างพวกผมที่ในตอนนั้นจะน้อมรับเชื่อฟังและพร้อมจะปฏิบัติตามคำแนะนำของท่านด้วยความห่วงใยเอ็นดูแน่นอนคุณปู่คุณย่าในสมัยนั้นต่างก็ล้วนผ่านเหตุการไม่สงบสุขทั้งภายในภายนอกประเทศมาแล้วทั้งสิ้น

 ไม่ว่าจะเป็นสงครามเกาหลีอาลีดัง   สงครามเวียดกงเวียดนามก็ว่ากันไป  หรือเก่ากว่านั้นก็เห็นจะเป็นภาวะสงครามโลกที่ประมาณว่าน่าจะครั้งที่สอง   สงครามโลกไม่ว่าจะครั้งที่ 1 หรือครั้งที่ 2 ผมเองเกิดไม่ทั้นแน่ ๆ  แหง๋ล่ะก็ช่วงนั้นยายผมยังสวยสาวอยู่เลย   ส่วนสงครามเวียดนามนั้น   ผมยังคงอยู่ในวัยช่วงวัยกำลังจำความได้……


บ้านโพธิ์ตากจังหวัดนครพมถิ่นฐานบ้านเกิดผมนี่เอง  ที่เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์โลกกับเขาด้วย   ดังจะเห็นได้จากการมีฐานการบิน  หรือสนามบิน  ผู้คนในพื้นที่บางทีก็เรียกขานว่าหน้าแค้มป์  ซึ่งหน้าแค้มป์ก็เป็นชื่อหมู่บ้านอีกทีรับผลประโยชน์ด้านชื่อตรงนี้ไป   เพราะตั้งอยู่หน้าสนามบินริมถนนสายหลักเส้นระหว่าง  นครพนม – สกลนคร  ห่างจากตัวจังหวัด ประมาณไม่เกิน 15 กิโลเมตร   ณ.ตอนนั้นผมไม่ทราบว่ารายละเอียดที่มาที่ไปของหน้าแค้มป์เป็นมายังไง  รู้แต่เพียงว่าหมู่บ้านในละแวกรัศมี 10 กิโลเมตรของสนามบินนั้น
 photo _DSC05311_zps0eb4b0cd.jpg

 photo _DSC05041_zpsa1b5a771.jpg


ต่างก็ได้รับอานิสงค์ความเป็นไปในการมีอยู่ของสนามบิน   ในด้านของการมีรายได้นอกเหนือจากการอาชีพหลักคือทำนามาสู่การมีงานทำของคนของคนรุ่นคราวพ่อคราวลุงในพื้นที่  ด้านการค้าขาย  และที่เห็นเป็นผลกระทบมากที่สุดก็เห็นจะเป็นด้านของการแลกเปลี่ยนซึมซับขนบวัฒนธรรมของฝรั่งมังค่าที่มาประจำการในสนามบินแห่งนี้แม้ว่าจะเป็นทหารซะเป็นส่วนใหญ่ 

 และก็น่ามีจะหลายจังหวัดที่มีฐานทัพและสนามบินเพื่อการนี้   เหตุการณ์เดียวกันนี้ดังจะเห็นได้จากบางครองครัวที่มีลูกสาวคราวนั้นถึงกับมีลูกเขยเป็นฝรั่งกันเลยเชียว   มีลูกมีหลานเป็นลูกครึ่งก็คือผลพลอยได้อีกทาง   การมีผับมีบาร์การเสพสุนทรีในบทเพลงที่นอกจากจะเป็นลูกทุ่งหมอลำอย่างที่เป็นมาแล้ว   เพลงสากลยุกดิสโก้ก็ได้รับอิทธิพลมาจากทหารหาญชาวต่างประเทศอยู่ไม่น้อย

แม้แต่ครอบครัวของผมตอนเด็กในช่วงนั้นพ่อผมเองก็ยังมีโอกาสทำงานแค้มป์กับเขาด้วยเหมือนกัน   ตอนเย็นหน้าหนาวเรานั่งล้อมวงผิงไฟกัน    พ่อปั่นจักรยานกลับจากทำงานก็จะมีขนมติดไม้ติดมือมาฝากบ้างในบางโอกาส......จำได้ติดตาไม่มีวันลืมเลือนขนมที่ว่ามันจะเป็นเม็ดกลม ๆ หลากสีสันหวานอะหร่อยที่แทบไม่อยากจะเชื่อในภายหลังว่ามันคือช๊อคโกแล็ต M&M ….

รสชาติหวานละมุนลิ้นละลายในปากของช็อคโกแล็ตนมเคลือบน้ำตาลหลากสีนี่เองที่ผมไม่ลังเลที่ครั้งหนึ่งผมเคยกินกับข้าวเหนียวนึ่งร้อน ๆ .......!?  ด้วยความอหร่อยที่สุดแล้วในความรู้สึกตอนนี้น   อดใจไม่ไหวที่จะต้องพินิจพิเคราะห์สังเกตุแม้กระทั่งซองของขนมหวานชนิดนี้ว่ามันช่างเหมือนซองของผงซักฟองสมัยโน๊นที่เราเรียกกันว่า  แฟ๊บ...กันเสียจริงๆ

ภาพในชนบทตอนนั้น  วิถีชีวิตผู้คนก็ยังคงเรียบง่ายมีความอาทรเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกันชนิดแกงไก่ต้มไก่กินกันนี่ถึงกับต้องตักแบ่งข้างบ้านเราด้วย   เผื่อวันหน้าเราไม่มีบ้างเขามีเขาก็จะแบ่งมาให้เราบ้างเช่นกัน   ในยุคสมัยนี้ก็ได้แค่โหยหาในบริบทนั้น   ทำไร่ทำนาเลี้ยงวัวเลี้ยงควายกันเป็นส่วนใหญ่   และควายที่เลี้ยงนี่ดูเหมือนจะเป็นหน้าที่หลัก ๆ ของเด็ก ๆ ในแต่ละครัวเรือนที่ได้รับหมอบหมายโดยอัตโนมัติ  ผมเองก็หนึ่งในนั้น ทุกฤดูกาลของชาวนาจะมีความผูกพันกับการเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะควายเป็นอย่างดี 

 ไม่มีหร็อกนะครับสมัยนั้นยังไม่มีรถไถนาและควายก็เป็นหนึ่งในปัจจัยด้านเครื่องมือหลัก ๆ ของเกษตรกรรมแห่งยุค  มหกรรมของการเลี้ยงสัตว์อันประกอบไปด้วยวัวควาย   ก็มีการผูกล่ามเอาไว้ไม่ได้ปล่อยตามทุ่งเฉย ๆ นะครับ   และไม่เฉพาะตอนฤดูเก็บเกี่ยว    เสร็จจากดำนาข้าวกล้าตั้งกอเขียวขจี  อันนั้นสัตว์เลี้ยงทั้งหลายเน้น ๆ เลย  ยังไงยังไงก็ต้องมีคนเลี้ยง   ขืนปล่อยปะละเลยเจ้าควายตัวดีคงได้อิ่มหนำสำราญจากสุดยอดอาหารอันหวานหอมนุ่มลิ้น   นั่นก็คือต้นข้าวของชาวบ้านก็คงไม่ไหวจะเสียค่าปรับ   เขาคิดเป็นต้นละนะครับหรือแม้ไม่มีเงินจ่ายก็จะปรับเป็นข้าวหรืออะไรก็ตามแต่จะตกลงให้เรื่องราวมันยุติ

ถ้ากินกันเยอะ ๆ แบบสร้างความเสียหายชนิดแก้ไขคืนมาไม่ได้แล้ว   เช่นข้าวที่เริ่มตั้งท้องนี่เสียหายหนัก  ถึงขั้นไกล่เกลี่ยว่าความกันถึงบ้านกำนัลผู้ใหญ่บ้านกันเลยเชียวแหละท่านเอ๊ยฉะนั้นก็เน้น ๆ กันหน่อยเลี้ยงวัวควายในฤดูนี้   และนี่เป็นที่มาของการนัดแนะเพื่อน ๆ ญาติพี่น้องนักเลี้ยงควายมืออาชีพ   ในแต่ละวันว่าวันพรุ่งนี้หรือวันข้างหน้านั้นจะต้อนฝูงควายไปเลี้ยงกันไหนดี     บ้านผมจะแบ่งโซนการเลี้ยงแบบเป็นโซนครับ....นาโคก   นาทาม  นาดอน  หรือไม่ก็โน่นเลยหน้าแค๊มป์เป็นลานหญ้าที่สาฐารณะประโยชน์ข้างสนามบินซึ่งก็แล้วแต่จะนัดแนะตกลงกันว่าจะไปไหนกันดี

พ่อและแม่โดยเฉพาะแม่ผมนั้นแกเป็นคนรักและเทิดทูลสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะควายเอามาก ๆ นะครับ    ด้วยว่ามันมีบุญคุณอันใหญ่หลวงสำหรับชาวนาเสียยิ่งกว่า  คูโบต้า  ที่ดื่มโซล่าเป็นอาหารเช่นยุคนี้   รักขนาดไหน..? ครั้งหนึ่งนั้นผมยังจำได้ไม่มีวันลืมแกเคยโยนกระเป๋าเสี้อผ้าขับไล่ผมออกจากบ้าน   ..!  เหตุเพราะวันนั้นแกสังเกตุเห็นควายอันแสนรักของแกนั้น    ตรง ส่วง (สบักบั้นเอว ช่วงท้ายเยื้องโคนหางทั้งสองข้าง )  มันซูบพร่อง  ซึ่งก็หมายความว่าควายมันทานหญ้าไม่อิ่ม  ซึ่งถ้ามันอิ่มมันก็จะเต็มไม่พร่องจนเป็นล่องอย่างนั้น   
 photo _DSC04961_zps922768dd.jpg

ใช่ครับผมโดนชุดใหญ่ไร้ปราณีในเย็นวันนั้นข้อหาบกพร่องในหน้าที่  หรือไม่เอาใจใส่ในการเลี้ยงเจ้าอุปกรณ์การเกษตรให้อิ่มหนำนั่นเอง  ถือเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดและจะไม่มีวันลืมเลือนสำหรับผมกันเลยทีเดียว.....55.....แกไม่สนหร็อกว่าคนเลี้ยงอย่างผมจะอิ่มจะหิวรึเปล่าระหว่างวันทั้งวันที่ปฏิบัติหน้าที่   ขอให้ควายอันแสนรักของแกอิ่มก็เป็นพอคนเลี้ยงช่างมัน...55

สถานที่แลนด์มาร์คที่แม่คิดว่าดีที่สุดที่ควรจะไปเลี้ยงควายนั้นก็เห็นจะเป็นนาทามทั่ว ๆไปโดยเฉพาะอย่างยิ่ง..ห้วยเหมือด..ครับ   ซื่งห้วยเหมือดนี่เองก็จะมีหัวไร่ปลายนา  ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยหญ้าอ่อน ๆ ยาว ๆ เขียว ๆ อันโอชะในสภาพเจิ่งน้ำนุ่มละไมลิ้นของเจ้าควายตัวดีของผมนั้นเอง   ก็ไม่อยากขัดขืนกระด้างกระเดื่องบัญชาจากบุบพการีหร็อกครับ   แต่ถนนหนทางที่จะไปนั้นแสนยาก  ต้องขี่ควายลุยน้ำตาม..ทางควาย..โดยเฉพาะ.....

ทางควายชื่อก็บอกอยู่แล้วชัด ๆว่า ควายเท่านั้นที่สัญจรไปมาได้คนไม่ต้อง   ทางควายมักจะเป็นล่องคู่ขนานประหนึ่งรางรถไฟจะต่างกันกันแค่ถางควายนั้นเป็นล่องหลุม   ประมาณช่วงขาสองข้างไม่ถึง 50 เซนต์  ที่มันช่วยกันย่ำโคลนนุ่ม ๆ ลื่น ๆ จนเป็นล่องน้ำคู่ขนานยาวเป็นทางควายสัญจร  อีกทั้งระยะความกว้างประมาณไม่ถึงเมตรในการแหวกสุมทุมพุ่มไม้    เด็ก ๆ อย่าง เรา ๆ ถ้าจะใช้เส้นทางนี้ในการสัญจรไป มาได้ก็ต้องขี่มันเท่านั้น   ครับขี่ควายนั่นแหละเพื่อที่จะพาควายไปสู่จุดมุ่งหมายนั่นก็คือแหล่งอาหารอันโอชะของมันนั่นเอง............นาทาม

อีกทั้งความน่ากลัวก็ใช่ย่อยนะครับ  เส้นทางที่จะไปห้วยเหมือดที่เล่ามานั้น   ป่าแก (ต้นสะแก) ด่านแรกที่จะต้องผ่าน  หนองเซียงบุญมา   ผ่านโนนสาวเอ้   และที่จะเป็นสุดยอดหวาดหวั่นพรั่นพรึงสำหรับผมนั่นก็คือ........หนองฝรั่ง......หนองฝรั่งเป็นห้วยเป็นหนองขึ้นมาโดยไม่ใช่กรรมวิธีทางธรรมชาตินะครับเท่าที่ทราบประวัติความเป็นมาคร่าว ๆ   อย่างที่กล่าวมาในตอนต้นเนื่องจากตัวฐานทัพของอเมริกาและพันธมิตรในการสู้รบนั้นมาตั้งแค้มป์ฐานบัญชาการอยู่หน้าสนามบินนั่นล่ะ  วันดีคืนดีก็จะส่งเครื่องบินไม่ทราบรายละเอียดว่ารุ่นอะไร    บินข้ามป่าข้ามโขงข้ามลาวมุ่งสู่เวียดนาม เพื่อไปหย่อนละเบิดเวียดกง....เสร็จภาระกิจก็บินกลับระยะทางประมาณ  200-300  กิโลเมตร  จิ๊บ ๆ มากสำหรับเครื่องบิน

สงครามสร้างความวิบัติฉิบหายฉันใด  ฉะนั้นนาน ๆ จะมีบ้างที่แตกตื่นเป็นข่าวใหญ่คึกโครมว่ามีเครื่องบินตกในฝั่งของไทยในหมู่บ้านโน้นหมู่บ้านนี้   และที่หมู่บ้านผมนั่นก็มีอยู่ครั้งนึงซึ่งมีความหายนะรุนแรงจากการตกของเครื่องบินรบหรือเครื่องบินทิ้งระเบิดผมไม่ทราบได้     เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านโพธิ์ตากถิ่นกำเหนิดของผมต้องจากลึกเอาไว้ว่า    เราได้มีห้วยมีหนองเพิ่มขึ้นมาเพิ่มอีกแห่งหนึ่งแล้วนั้นก็คือ  ...หนองฝรั่ง...
 photo _DSC05001_zps5ae470f9.jpg

อันเป็นผลิตผลจากแรงระเบิดของเครื่องบินฝรั่งซึ่งกำลังบินกลับฐานหลังปฏิบัติหน้าที่  แต่ดันมาดิ่งโหม่งโลกตรงปลายนาของลุงชาลีเสียก่อนซึ่งไม่ไกลจากฐานประมาณ 6 กิโลเมตร  และก็เป็นเหตุแห่งการอุบัติขึ้นมาของ...หนองฝรั่ง..........แม้ผมไม่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นแต่ก็หาได้หยุดจินตนาการไปต่าง ๆ นา ๆ อย่างตื่นตาตื่นใจประสาเด็ก ๆ อย่างผมยิ่งนัก   หลังการรับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้......ถึงไม่อยู่ในเหตุการณ์และไม่ได้เห็นกับตา  แต่แผ่นอลู่มิเนียมทรงโค้งแผ่นใหญ่สีเขียวหนาประมาณ 10-15 เซนต์กว้าง ยาวเกือบ ๆ 2 เมตร ที่ลุงเดชใช้ล้อมรั้วทำคอกไก่ข้างบ้านผม    นั่นก็เป็นหลักฐานเพียงพอที่ผมจะเชื่อเรื่องนี้ได้อย่างสนิทใจ..........

ข่าวการสูญเสียนี้นับเป็นฝันร้ายหายนะสำหรับกองทัพสหรัฐเป็นยิ่งนักต่างจากชาวบ้านที่นับว่าตรงกันข้าม   ผู้คนต่างพร้อมใจมุ่งหน้าพากันไปโดยมิได้นัดหมาย  ล้วนต่างก็เดินเท้าบ้าง  ขี่เกวียนบ้างก็มี  บ้างก็ควบจักรยานบึ่งหน้าสู่จุดที่เครื่องบินตกด้วยความรีบเร่ง  ทำหน้าที่ไทยมุงโดยสมบูรณ์แบบไร้ข้อบกพร่อง   มีบ้างที่ประสงค์ต่อเศษเหล็กเศษอลูมิเนียมใส่เกวียนติดไม้ติดมือมาเป็นของกำนัลให้ลูกหลานเอาไว้แลก...ไข่ขี้เกี้ยม...(ขนมไข่จิ้งจกหลากสี )

หาได้ตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากลูกระเบิดที่อาจยังตกค้างในตัวเครื่องบินรอการประทุได้ทุกเมื่อไม่...!!!!  ท่องเอาไว้ไทยมุงโดยสมบูรณ์แบบ  555   และกว่า  จนท. จะทราบพิกัด  และกว่าจะเดินทางดั้นด้นมาถึง นักบินโชคร้ายและเศษซากของเครื่องบินก็ถูกแปรสภาพเป็นเล้าเป็ดเล้าไก่  หรือไม่ก็ฝาผนังเถียงนาทดแทนฝาแตบตอง  ในวันรุ่งขึน   ที่ยังหลงเหลือคาดว่าไม่น่าจะถึงครึงไว้ให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไว้ดูต่างหน้าและค้นหา กล่องดำ....55  และผลพลอยได้จากเหตุการณ์หายนะครั้งใหญ่หลวงนี้   หมู่บ้าน เราก็มีผลิตผลทางสาธารณะที่มีชื่อ   เรียกขานขนานนามมาตราบเท่าทุกวันนี้ว่า
........................หนองฝรั่ง......................

5 ความคิดเห็น: